วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

red army

ข่าวฟุตบอล นี่น่าจะเป็นชัยชนะ ที่ชอกช้ำที่สุดของบรรดา 'เร้ดอาร์มี่' ในฤดูกาลนี้ เพราะถึงแม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ไปได้ 4-0 แต่เนื่องจากเชลซีเก็บ 3 คะแนนเหนือวีแกนได้ จึงทำให้พวกเขาเป็นได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น มิหนำซ้ำรูนี่ย์ยังพลาดดาวซัลโวไปอีกด้วย

ผลบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษาคม 2553
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 สโต๊ค ซิตี้
ประตู : 1-0 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ น.31,2-0 ไรอัน กิ๊กส์ น.38,3-0 แดนนี่ ฮิกกิ้นบอทอม(o.g.) น.55,4-0 จี ซุง ปาร์ค น.84

ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้

ครึ่งแรก

แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เปิดฉากลุยตั้งแต่ต้นเกมทันที โดยมีโอกาสได้ลุ้นในนาทีที่ 10 จากลูกที่ นานี่ เปิดมาให้ แต่ว่าเบอร์บาตอฟ โหม่งข้ามคานออกไป

จากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ และมาประสบความสำเร็จเอาในนาทีที่ 31 จากจังหวะลูกเตะมุม วิดิช ได้โขกแต่ไปติดนักเตะวีแกน ก่อนที่จะมาเข้าทาง เฟล็ตเชอร์ ซัดเสยตาข่ายจากระยะเผาขนเข้าไป

ถึงนาทีที่ 38 สกอร์ก็ขยับเป็น 2-0 เมื่อ เบอร์บาตอฟ ทำทางได้สวยให้ กิ๊กส์ สไลด์บอลผ่านตัวของ เบโกวิช ประตูสโต๊ค เข้าไป ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด นำสบายในช่วงนี้

ถัดมาเป็นโอกาสของ รูนี่ย์ ก่อนหมดครึงแรก โดยยังเป็น เบอร์บาตอฟ ที่ใส่พานมาให้ แต่ว่า โรเบิร์ต ฮูธ ก็มาช่วยบล็อกได้ทันเวลาก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ที่กำลังลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวอยู่กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา จะสงบอลไปตุงตาข่าย

สโต๊ค ก็พอมีโอกาสเหมือนกันเมื่อ ฟูลเลอร์ ได้โอกาสจะทำประตูแต่ว่า ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ช่วยป้องกันเอาไว้ได้แบบไม่ยากเย็นนัก ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำ 2 เม็ดของเจ้าบ้าน แต่บรรยากาศไม่สู้ดีนักเพราะรู้สถานการณ์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

ครึงหลัง

แมนฯ ยูไนเต็ด มาบวกได้อีกประตูในนาทีที่ 54 ซึ่งต้องชม รูนี่ย์ ที่ทำมาได้ดีก่อนจะเปิดไปปากประตูโดยมี นานี่ โฉบเข้ามา ทำให้ ฮิกกินบอแธม กดดันและสกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเองไป แต่มันก็ไร้ความหมายเพราะอีก สนาม เชลซี ไล่ยิงวีแกนสนุกเท้า

ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เกมเริ่มเนือยลงไป มีจังหวะก็ทำไม่ถนัด ส่วนรูนีย์ ที่ก่อนเกมได้ลุ้นดาวซัลโวด้วยก็มาโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 76 แมนฯ ยูไนเต็ด มายิงเพิ่มเป็น 4-0 ในนาทีที่ 84 จากลูกเตะมุม กิ๊กส์ เปิดเข้ามาให้ พาร์ค โขกเข้าไปจากระยะ 8 หลา

ก่อนที่จะไม่มีอะไรกันอีก เกมจบลงที่สกอร์นี้และปีศาจแดงก็ได้เป็นรองแชมป์ในฤดูกาลนี้เท่านั้น หยุดสถิติการครองแชมป์ไว้ที่ 3 สมัยติดต่อกัน และอดแซงหน้าขึ้นเป็นแชมป์ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

รายชื่อผู้เล่นทั้ง สองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช ,ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริช เอฟร่า,แกรี่ เนวิลล์,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์,พอล สโคลส์ (กิ๊บสัน น.62),ไรอัน กิ๊กส์,นานี่,เวย์น รูนี่ย์(ปาร์ค น.77),ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ(มาเคด้า น.62)

สโต๊ค ซิตี้ : แอสเมียร์ เบโกวิช,โรเบิร์ต ฮูธ,ไรอัน ชอว์ครอสส์,แดนนี่ ฮิกกิ้นบอทอม(คอลลินส์ น.67),แอนดี้ วิลกินสัน,เกล็นน์ วีแกน,ดีน ไวท์เฮด(ดิเยา น.67),แมทธิว เอ็ตเธอริงตัน,รอรี่ ดีแลป,มามาดี้ ซิดิบี้(พิวจ์ น.67),ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น